นโยบาย การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2

(Occupational Health, Safety, and Environmental Policy 2nd Revised Edition)

บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)

 

บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตและบริการออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์จากพลาสติกครบวงจร ตระหนักถึงความปลอดภัย สภาพแวดล้อมในการทำงานและสุขภาพที่ดีของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน บริษัทฯ จึงดำเนินการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และควบคุมผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างและรักษาสภาพการทำงานที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าหมายสูงสุดในการป้องกันอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงานให้เป็นศูนย์ (Zero Harm) ควบคู่กับการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในระยะยาวโดยบูรณาการให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการทางธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าเข้ากับการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดตั้งอยู่บนระบบการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพขององค์กรบนพื้นฐานของการไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discrimination) ความโปร่งใส (Transparency) ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (Accountability) และการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสากล ประกอบด้วย ISO 45001:2018 ISO 14001:2015 หลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGPs) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงให้ความสำคัญและถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงในการส่งเสริมและสนับสนุนให้บรรลุผลสำเร็จ จึงประกาศนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติร่วมกัน ดังนี้

1. การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างเป็นระบบ (System)

บริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการชี้บ่งอันตราย การประเมินและควบคุมความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งจัดทำแผนและฝึกซ้อมการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. บริษัทฯ จัดทำนโยบายและตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (OHS&E Committee) ในการกำกับ ติดตาม และรายงานผลต่อคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  2. บริษัทฯ จัดหาทรัพยากรที่เพียงพอและเหมาะสม สนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
  3. บริษัทฯ ปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎหมาย มาตรฐาน และข้อตกลงสากล เช่น ISO 45001:2018 ISO 14001:2015
    ISO 50001:2018 และ GHG Protocol
  4. บริษัทฯ จัดทำทะเบียนความเสี่ยง (Risk Register) และระบบติดตาม (Risk Assessment & Control) เพื่อควบคุมและป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
  5. บริษัทฯ กำหนดตัวชี้วัดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (KPIs) ได้แก่ อัตราการบาดเจ็บ (IR) อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) และจำนวนการเสียชีวิตจากการดำเนินงาน (Fatality) ที่ครอบคลุมทั้งพนักงานและผู้รับเหมาช่วง พร้อมรายงานผลอย่างโปร่งใส
  6. บริษัทฯ จัดตั้งทีมสำรวจความปลอดภัย (Safety Patrol) และระบบ CCCF (Completely Check Completely Find-Out) ในการเฝ้าระวังและป้องกันอุบัติเหตุ
  7. บริษัทฯ ตรวจสอบและประเมินระบบการจัดการอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเหมาะสมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

2. การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Engagement)

บริษัทฯ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบการทำงานที่มีความโปร่งใส ลดความเสี่ยง และสร้างความไว้วางใจร่วมกันระหว่างองค์กรและผู้มีส่วนได้เสีย

  1. บริษัทฯ เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนา ตรวจสอบ และเสนอแนะนโยบายและมาตรการด้านความปลอดภัย
  2. บริษัทฯ จัดให้มีระบบรับฟังความคิดเห็นและการแจ้งเบาะแส (Feedback / Whistleblower) เพื่อรายงานความไม่ปลอดภัยหรือการละเมิดมาตรการ
  3. บริษัทฯ รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ได้แก่ พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า และชุมชน ในการเสริมสร้างความเข้าใจและลดความเสี่ยงร่วมกัน
  4. บริษัทฯ สนับสนุนการสื่อสารที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา และเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม

3. การยกระดับตามมาตรฐานและกฎหมายสากล (Standard & Compliance)

บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด หรือให้ดีกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งนำผลการดำเนินงานมาทบทวนเพื่อปรับปรุงระบบการจัดการให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  1. บริษัทฯ ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องด้านแรงงาน ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ที่ดำเนินธุรกิจ
  2. บริษัทฯ ทบทวนและปรับปรุงนโยบาย/ระบบการจัดการอย่างน้อยปีละครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย มาตรฐาน และข้อกำหนดใหม่
  3. บริษัทฯ ดำเนินการตรวจติดตามและ การตรวจสอบ (Audit) ทั้งภายในและภายนอก เพื่อประเมินการสอดคล้องและหาแนวทางปรับปรุง

4. การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน (Culture)

บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัย อาชีวอนามัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ผ่านการอบรม การสื่อสาร และกิจกรรมรณรงค์อย่างสม่ำเสมอ การปลูกฝังทัศนคติและพฤติกรรมเชิงบวกในการเสริมสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย และเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน

  1. บริษัทฯ สร้างความตระหนักรู้ให้แก่พนักงานทุกระดับ ผ่านการอบรมเพื่อฟื้นฟูทักษะและกิจกรรมรณรงค์ที่หลากหลาย
  2. บริษัทฯ ส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการด้านด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร
  3. บริษัทฯ สร้างการมีส่วนร่วมและตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมการค้นหาอันตรายในการทำงาน (CCCF) กิจกรรมสำรวจความปลอดภัย (Safety Patrol) การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและจัดการโรคระบาด (Global Health) ได้แก่ โรคเอดส์ (HIV/AIDS) วัณโรค (Tuberculosis) และมาลาเรีย (Malaria) รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Awareness) เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีในสถานที่ทำงาน
  4. บริษัทฯ ปลูกฝังคุณค่าความรับผิดชอบและการทำงานร่วมกันเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย

5 การจัดการมลพิษ (Pollution Management)

บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมและป้องกันมลพิษที่อาจเกิดจากการดำเนินธุรกิจ จึงได้พัฒนาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษ ลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง และจัดการของเสียอย่างมีความรับผิดชอบ แนวทางดังกล่าวไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม แต่ยังสนับสนุนการดำเนินงานอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

  1. บริษัทฯ นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS) มาใช้ในการควบคุมและป้องกันมลพิษ พร้อมการรับรองตามมาตรฐานสากล
  2. บริษัทฯ ควบคุมและเฝ้าระวังการปล่อยมลพิษทางอากาศ น้ำ และดิน รวมถึงการจัดการของเสียอันตรายตามที่กฎหมายกำหนด
  3. บริษัทฯ ลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดการมลพิษทั้งทางน้ำ ทางดิน และทางอากาศอย่างรับผิดชอบและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

6 การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement)

บริษัทฯ ยึดมั่นในหลักการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ข้อมูลจากการตรวจสอบ การประเมินผล และบทเรียนที่ได้รับจากอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ใกล้เคียงมาเป็นเครื่องมือในการยกระดับประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมสุขภาพกายและใจของพนักงานในสนับสนุนการทำงานอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

  1. บริษัทฯ ดำเนินการติดตามและประเมินผลด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ
  2. บริษัทฯ จัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ เพื่อหาแนวทางปรับปรุงป้องกัน
  3. บริษัทฯ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงาน (Work-Life Balance) และโครงการช่วยเหลือพนักงานในด้านต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพของพนักงานทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
  4. บริษัทฯ ปรับปรุงมาตรการและระบบการจัดการโดยอ้างอิงจากเทคโนโลยี แนวปฏิบัติที่ดี และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ขอบเขตการบังคับใช้ (Scope of Application)

นโยบายฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับการดำเนินงานในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ และครอบคลุมบุคลากรทุกระดับตั้งแต่คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน ไปจนถึงลูกค้า คู่ค้า ผู้รับเหมาช่วงและบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่เข้ามาปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ รวมถึงชุมชนโดยรอบ บริษัทฯ คาดหวังให้ทุกคนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแสดงความมุ่งมั่นด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในระดับที่เทียบเท่ากัน และบริษัทฯ จะทบทวนนโยบายนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อให้มีความเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ

ประกาศ ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568

(นางสาวกชรัตน์ ธนาดำรงศักดิ์)

กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์

Fortune Parts Industry Public Company Limited (FPI) uses cookies to provide you with a better browsing experience. Detailed information on the use of cookies on this site นโยบายความเป็นส่วนตัว and how you can manage them, ตั้งค่า is provided in our Privacy and Cookies Policy.

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose to set cookies by turning on/off each type of cookie according to your needs, except for the necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • การเก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์

    Google Analytics เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่มีเพื่อนำไปพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บันทึกการตั้งค่า